วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Waterfall Model




          Waterfall Model หรือ ทฤษฎีแบบจำลองน้ำตก เป็นการศึกษาถึงความเหมาะสม
    กำหนดปัญหา หรือการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study)
   เป็นหน้าที่ของนักวิเคราะห์ระบบ ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ จะเน้นศึกษาใน 5 ประการ คือ
          
         
           1. ความเหมาะสมทางด้านเทคนิค (Technical Feasibility) - ศึกษาด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เหมาะสมหรือไม่
           2. ความเหมาะสมทางด้านการปฏิบัติงาน (Operational Feasibility) - การปฏิบัติงานซ้ำซ้อนหรือไม่ ตรงหรือไม่
           3. ความเหมาะสมทางด้านการเงิน (Financial Feasibility) - เปรียบเทียบความคุ้มค่า ผลตอบแทน ค่าใช้จ่าย
           4. ความเหมาะสมทางด้านเวลา (Schedule Feasibility) - พิจารณาเวลาในการสร้างระบบงาน การใช้เวลา
          5. ความเหมาะสมทางด้านบุคลากร (Human Feasibility) - ดูความพร้อมของบุคลากร การพัฒนาบุคลากร
         
         
         คุณลักษณะของ Waterfall Model
  
     •เป็น Seriesของขั้นตอนการทำงาน คล้ายสายงานการผลิต (Product Line)
     •แต่ละขั้น หน้าที่และProduct ถูกกำหนดอย่างชัดเจน
     •Product ส่วนใหญ่เป็นเอกสาร (Document)
     •Productที่ผลิตในแต่ละขั้นจะเป็นพื้นฐานสำหรับงานขั้นต่อไป
     •สามารถตรวจสอบความถูกต้องของงานในแต่ละขั้นได้
         ข้อดีของ Waterfall Mode
  
         แบ่งงานยากให้เป็นงานที่เล็ก ง่ายต่อการจัดการ
        มีการกำหนดProductที่ต้องส่งมอบในแต่ละงาน อย่างชัดเจน


        ข้อจำกัดของ Waterfall Model


       ถ้า ค้นพบข้อผิดพลาดของขั้นที่เสร็จสิ้นแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ การแก้ไขจำเป็นต้องเริ่ม
       รอบ   (Iteration) ใหม่
      ในความเป็นจริง หลังการทำงานในแต่ละขั้นควรสามารถย้อนไปแก้ไขความผิดพลาดในขั้นใด
      ใดก็ได้ก่อนหน้า

      ดังนั้นในทางปฏิบัติ  ขั้นตอนการทำงานใน Waterfall จึงไม่เป็นเชิงเส้น (Linear)

     ข้อเสียหลักคือ ลูกค้าเห็นและทดลองใช้Software ก็ต่อเมื่อถึงขั้นตอนสุดท้าย  หากมีบางอย่าง
     ที่ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า การแก้ไขยาก แพง เสียเวลา



ขอขอบคุณข้อมูลจาก     http://th.wikipedia.org/wiki/แบบจำลองน้ำตก